ติดฟิล์มกระจกมือถือได้เองง่าย ๆ ไม่ต้องง้อช่างอีกต่อไป

หนึ่งในสิ่งที่คนใช้โทรศัพท์สมาร์ตโฟนต้องซื้อ และเปลี่ยนอยู่เรื่อย ๆ คงหนีไม่พ้นฟิล์มกันรอย ไม่ว่าจะเป็นฟิล์มใส ฟิล์มด้าน ฟิล์มเจล หรือฟิล์มกระจกมือถือ แต่การจะไปติดฟิล์มที่ร้านบ่อย ๆ ก็เป็นค่าใช้จ่ายจุกจิกที่รวมกันแล้วเยอะมากอยู่เหมือนกัน เพราะการใช้บริการติดฟิล์มตามร้านต่าง ๆ ต้องเสียเงินหลักร้อยทุกครั้งเลยทีเดียว แถมถ้าโชคร้ายไปเจอร้านที่ติดไม่ดี ติดไม่เก่ง เพียงแค่ไม่นานก็ต้องไปเปลี่ยนใหม่อีกแล้ว

ถ้าหากคุณสามารถติดฟิล์มกระจกมือถือได้เอง จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก เพราะฟิล์มป้องกันหน้าจอเป็นรอย ทั้งแบบฟิล์มและแบบฟิล์มกระจกนั้นมีราคาถูกกว่าที่คุณคิดมาก ยิ่งถ้าซื้อในราคาส่งราคาก็จะยิ่งถูกลง แถมการซื้อฟิล์มมาติดเองยังช่วยให้คุณสามารถเลือกคุณภาพ รุ่น และยี่ห้อของฟิล์มกันรอยเองได้ด้วย

ฟิล์มกระจกติดมือถือ ดีอย่างไร

ในยุคเริ่มต้นของสมาร์ตโฟนและฟิล์มกันรอยนั้น ฟิล์มใสและฟิล์มด้าน ถือเป็นฟิล์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะยังมีตัวเลือกฟิล์มกันรอยไม่มากนัก แต่ในปัจจุบันมีการผลิตฟิล์มกระจกมือถือออกมาให้เลือกใช้กันแล้ว โดยฟิล์มประเภทนี้ มีลักษณะใส ไม่ขุ่น เช่นเดียวกันกับฟิล์มใส แต่เอาชนะฟิล์มใสแบบปกติได้ที่ความแข็งแรงทนทาน และประสิทธิภาพในการกันรอยขีดข่วนและการตกกระแทก เนื่องจากฟิล์มกระจกติดมือถือ จะมีความหนาของกระจกใสช่วยปกป้องหน้าจอของคุณ ราวกับว่ามีหน้าจอโทรศัพท์เพิ่มขึ้นอีกชั้นหนึ่ง

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ทำให้ฟิล์มกระจกมือถือเป็นที่นิยมมากทั้งในหมู่ผู้ใช้และผู้ให้บริการรับติดฟิล์มมือถือก็คือ ฟิล์มกระจกเหล่านี้ติดง่ายกว่าฟิล์มอ่อนและฟิล์มแข็งทั่วไปนั่นเอง ด้วยวัสดุที่หนากว่า และไม่โค้งงอและไม่พับลงขณะกำลังติดฟิล์ม ทำให้โอกาสที่จะเกิดฟองอากาศน้อยมาก และสามารถติดให้เรียบร้อย ตรงขอบ ไม่เบี้ยวได้อย่างง่ายดาย จึงใช้เวลาในการติดน้อยกว่าฟิล์มแบบธรรมดา และไม่ต้องอาศัยความชำนาญมากก็ติดให้สวยได้ การซื้อฟิล์มกระจกไปติดเองที่บ้านจึงสะดวกมาก ๆ นั่นเอง 

และในวันนี้เราจะมาสอนเทคนิคการติดฟิล์มกระจกสำหรับมือถือให้เนี๊ยบเหมือนทำโดยช่างมืออาชีพ มาดูกันเลยว่ามีอุปกรณ์ใดบ้างที่คุณต้องเตรียม มีขั้นตอนใดบ้างที่คุณต้องทำตามเพื่อติดฟิล์มด้วยตนเองที่บ้าน พร้อมแนะนำฟิล์มกระจกมือถือ 3 รุ่นที่คุณจะต้องติดใจ

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการติดฟิล์มกระจกมือถือเองที่บ้าน

ในการติดฟิล์มกระจกเองที่บ้าน แม้จะติดได้ง่าย ๆ เพราะในแพ็กฟิล์มติดกระจกนั้นมีอุปกรณ์เพียงพอสำหรับการติดฟิล์มมาให้แล้ว แต่ถ้าอยากจะติดให้เนียบสวยกริ๊บเหมือนที่ร้าน ก็ต้องมีการเตรียมอุปกรณ์บางอย่างเพิ่มสักหน่อย ดังนี้

1. โต๊ะหรือพื้นเรียบ

การจะติดฟิล์ม ต้องมีพื้นที่ราบเรียบ ไม่ขรุขระ และมีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อให้คุณวางโทรศัพท์และเครื่องมือต่าง ๆ ไว้หยิบใช้ได้อย่างถนัดมือ และมองเห็นได้อย่างชัดเจน

2. ผ้าไมโครไฟเบอร์

ผ้าไมโครไฟเบอร์เป็นผ้าที่ฝุ่นไม่เกาะ สามารถใช้เช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องโทรศัพท์และหน้าจอให้ปราศจากคราบมัน รอยนิ้วมือ และฝุ่นละออง

3. เทปใส

หากคุณเคยสังเกตเทคนิคของช่างติดฟิล์มมือถือมาบ้าง คงเคยเห็นว่าพวกเขาจะใช้เทปใส เพื่อเก็บฝุ่นบนหน้าจอมือถือ ไม่ให้มีอะไรเหลืออยู่เลย และยังใช้ในการดึงฟิล์มเก่าออกจากเครื่อง หรือการดึงฟิล์มขึ้นเพื่อไล่ฟองอากาศได้ด้วย

เทคนิคการติดฟิล์มกระจกมือถือให้เรียบเนียนสวย

ขั้นตอนที่ 1 เช็กของในแพ็กฟิล์มกระจกติดมือถือ

ก่อนจะเริ่มทำการติดฟิล์ม เราแนะนำให้คุณลองแกะกล่องฟิล์มออกมาดูก่อนว่าในแพ็กเกจนั้นมีอะไรมาให้บ้าง พร้อมทั้งอ่านวิธีการติดแบบคร่าว ๆ 

ขั้นตอนที่ 2 ลองทาบฟิล์มบนหน้าจอก่อนติดจริง

การลองนำฟิล์มที่ยังไม่แกะแผ่นพลาสติกออกมาลองทาบกับหน้าจอก่อน จะช่วยทำให้คุณเห็นภาพว่าตอนติดแล้วจะเป็นอย่างไร ขนาดพอดีหรือไม่ และจะต้องวางอย่างไรให้พอดีขอบ

ขั้นตอนที่ 3 แกะฟิล์มเก่าออก และทำความสะอาดหน้าจอ อย่าให้มีฝุ่นเกาะ

ก่อนจะติดฟิล์ม คุณจะต้องนำฟิล์มเดิมออกก่อน โดยสามารถใช้เทปใสแปะแล้วดึงออกก็ได้ จากนั้นเช็ดทำความสะอาดหน้าจอให้สะอาดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์หรือแผ่นเช็ดหน้าจอที่มาพร้อมกับฟิล์ม ไม่ให้มีความมันเกาะอยู่ เพราะคราบมันจะทำให้กาวทำงานได้ไม่เต็มที่ และทำให้ฟิล์มหลุดเร็ว และต้องทำความสะอาดฝุ่นออกให้หมดด้วยการใช้เทปใสแปะแล้วดึงออก ไม่เช่นนั้นจะเกิดฟองอากาศได้

ขั้นตอนที่ 4 ลอกแผ่นพลาสติกออกจากด้านกาวของฟิล์มกระจก

เมื่อทำความสะอาดหน้าจอโทรศัพท์เรียบร้อย คุณก็พร้อมที่จะติดฟิล์มแล้ว โดยที่คุณจะต้องลอกแผ่นพลาสติกออกจากด้านกาวของฟิล์มกระจก ที่จะต้องติดลงไปบนหน้าจอโทรศัพท์ของคุณ ในขั้นตอนนี้คุณควรลอกแผ่นพลาสติกออกในขณะที่คว่ำฟิล์มลงให้ด้านกาวอยู่ด้านล่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองในอากาศลอยมาติดกับด้านในของฟิล์ม

ขั้นตอนที่ 5 วางฟิล์มกระจกลงบนหน้าจอโทรศัพท์

เมื่อลอกแผ่นพลาสติกออกแล้ว ให้คุณนำแผ่นฟิล์มมาติดกับหน้าจอโทรศัพท์ของคุณได้เลย โดยเราแนะนำให้คุณใช้จุดใดจุดหนึ่งบนหน้าจอโทรศัพท์เป็นจุดโฟกัส เช่นลำโพงด้านบน กล้องหน้า หรือปุ่มกดในรุ่นที่ยังมีปุ่มกดอยู่ เมื่อวางได้ตรงแล้วจึงแนบฟิล์มลงไปทั้งแผ่น รีดฟิล์มติดสนิทกับหน้าจอไม่ให้มีฟองอากาศเหลืออยู่ 

ขั้นตอนที่ 6 เช็ดฟิล์มให้สะอาด และตรวจสอบดูว่ามีฟองอากาศหรือไม่

เมื่อติดเสร็จแล้ว คุณควรเช็ดฟิล์มให้สะอาดอีกครั้งและตรวจสอบดูให้ครบทุกมุมว่ามีฟองอากาศอยู่หรือไม่ หากมี ให้คุณนำเทปใสมาดึงฟิล์มกระจกขึ้น แล้ววางลงไปใหม่ได้เลยแล้วจึงรีดให้สนิทอีกครั้ง

แนะนำฟิล์มกระจกติดมือถือ 3 รุ่นปัง

หากคุณอยากลองติดฟิล์มกระจกด้วยตัวเองที่บ้าน เรามีฟิล์มกระจกมือถือจาก 3 ยี่ห้อคุณภาพมาฝากกัน รับรองว่าคุณภาพดีไม่แพ้กับที่ร้านติดฟิล์มใช้แน่นอน

1. Whitestone

แบรนด์ฟิล์มกระจกติดมือถือ ที่มีฟิล์มกระจกให้เลือกทั้งแบบมีกาวในตัว และแบบกาว UV มีฟิล์มสำหรับโทรศัพท์หลายยี่ห้อ หลายรุ่น ทั้ง Apple Samsung และอีกหลายยี่ห้อ ผลิตจากกระจกที่แข็งแรง และเคลือบสารกันรอยนิ้วมือ ทำให้หน้าจอดูสะอาดอยู่เสมอ ไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย ๆ 

2. Momax

ฟิล์มกระจกติดหน้าจอจาก Momax ผลิตมาจากกระจกที่แข็งแรง ทนทาน ไม่เปราะแตกง่าย กันรอยขีดข่วนได้ดี ตัวฟิล์มไม่เป็นรอยง่าย ไม่ว่าจะรอยนิ้วมือ หรือคราบมันใด ๆ การใช้หน้าจอสัมผัสสามารถตอบสนองได้รวดเร็ว ลื่นไหล ราวกับไม่ได้ติดฟิล์มเลยทีเดียว

3. RhinoShield

นอกจากกระจกติดหน้าจอโทรศัพท์แล้ว ฟิล์มกระจกสำหรับเลนส์กล้องก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะสมัยนี้โทรศัพท์รุ่นใหม่ ๆ มักออกแบบกล้องและเลนส์ให้ยื่นออกมาจากตัวโทรศัพท์ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดรอยขีดข่วนและเสียหายได้ง่าย ซึ่ง RhinoShield มีผลิตภัณฑ์กระจกเลนส์กล้องสำหรับปกป้องเลนส์ออกมาโดยเฉพาะ 

นอกจากฟิล์มกระจก 3 ยี่ห้อที่เราแนะนำในบทความนี้ บนเว็บไซต์ของ Vgadz ยังมีฟิล์มติดมือถืออีกมากมายให้คุณได้เลือกซื้อหลายรุ่น หลายราคา ตามความชอบและเทคโนโลยีการผลิตที่โดดเด่นแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น มีทั้งฟิล์มกระจกมือถือสำหรับติดหน้าจอ ฟิล์มปกป้องเลนส์ และฟิล์มสำหรับสมาร์ตวอทช์ด้วย ไปเลือกซื้อกันได้ที่ www.vgadz.com