ขาดไปเหมือนขาดใจแน่ ๆ สำหรับอุปกรณ์เสริมชิ้นสำคัญที่ขึ้นตรงกับการใช้งานของโทรศัพท์และแก็ดเจ็ตทุกชนิด แน่นอนว่าสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงนั้น คงหนีไม่พ้น “สายชาร์จ” อุปกรณ์สำคัญ ตัวช่วยส่งกระแสไฟ พร้อมเติมเต็มพลังงานให้เพียงพอต่อการใช้งาน
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันไทป์การชาร์จของอุปกรณ์ไอทีนั้น ได้ถูกพัฒนาออกไปหลากหลายแบบ ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้อัปเดตแพทซ์ใหม่เกี่ยวกับอุปกรณ์สายชาร์จ ในบทความนี้เราจะมาบอกต่อแบบครบ จบทุกประเภท พร้อมเทคนิคการเลือกซื้อที่มือใหม่ก็สามารถเข้าใจได้ง่ายสุด ๆ!
5 ประเภทสายชาร์จในแวดวงไอที 2022
- สายชาร์จ Lighting (สำหรับผลิตภัณฑ์ Apple)
เริ่มต้นกันที่อุปกรณ์สายชาร์จยอดนิยมสำหรับผลิตภัณฑ์จากค่าย Apple หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า สายไอโฟน โดยแรกเริ่มจะมาในรูปแบบของพอร์ตหัว USB A to Lighting เป็นสายสีขาวเรียบแบบเดียวกับที่เคยแถมมาให้พร้อมตัวเครื่อง iPhone/iPad รุ่นแรก ๆ ไปจนถึง iPhone 7 Plus
ในเวลาถัดมาทางแบรนด์ได้พัฒนาอุปกรณ์การชาร์จ เพื่อให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่รวดเร็ว และเปลี่ยนจากพอร์ตหัวเดิมมาเป็น USB C to Lightning เพื่อรองรับการใช้งานตั้งแต่ iPhone 8 เป็นต้นไป รวมไปถึงการชาร์จใน iPad Pro ด้วย
จุดเด่นของสายชาร์จ Lighting รุ่นล่าสุดที่ใช้งานกัน คือลดระยะเวลาในการชาร์จ พร้อมเติมเต็มแบตเตอรี่กว่า 50% ภายในระยะเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น! อย่างไรก็ตาม ความสามารถนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อใช้งานไปพร้อม ๆ กับอะแด็ปเตอร์ที่รองรับการจ่ายไฟแบบ PD เท่านั้น
- สายชาร์จ Type C
มาต่อกันที่สายชาร์จ Type C ที่ใช้งานกันในสมาร์ตโฟนฝั่ง Android กันบ้าง โดยสายประเภทนี้จะเป็นพอร์ตหัวแบบ USB A to USB C ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อยกระดับความปลอดภัยด้านการใช้งาน พร้อมรองรับการจ่ายไฟได้มากกว่าตั้งแต่ 3A ไปจนถึง 5A
ความสะดวกที่มากกว่าสำหรับสายประเภทนี้ คือความยืดหยุ่นด้านการใช้งาน ให้ผู้ใช้สามารถสลับด้านเสียบปลายสายเพื่อจ่ายกระแสไฟได้อย่างปลอดภัย ทั้งยังสามารถนำไปใช้ถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เคย สำหรับเวอร์ชันในปัจจุบันนั้น ได้ถูกพัฒนามาจนถึงเทคโนโลยี 3.1 โดยมีจุดเด่นด้านการส่งข้อมูลในอัตราความเร็วที่สูงยิ่งกว่าวิดีโอ 4K แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุดถึง 10 Gbps!
- สายชาร์จ Micro USB
ในส่วนของการออกแบบสาย Micro USB นั้น ได้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งานสำหรับสมาร์ตโฟนระบบ Android โดยเฉพาะ ทั้งยังควบรวมไปจนถึงสมาร์ตโฟนที่เป็นระบบ Window Phone และแก็ดเจ็ตเสริมที่ไม่ใช้กำลังไฟมาก เช่น ลำโพงบลูทูธ, หูฟังบลูทูธ และสมาร์ตวอร์ชอีกหลากหลายแบรนด์
ด้วยการใช้งานที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นอุปกรณ์ชาร์จอเนกประสงค์ ทำให้มีราคาไม่ค่อยสูง อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่าย เนื่องจากมีความต้องการในตลาดค่อนข้างสูง และมีให้เลือกตั้งแต่แบรนด์ทั่วไป จนถึงแบรนด์ชั้นนำที่มีคุณภาพ วัสดุทนทาน ใช้งานได้คุ้มค่า
- สายชาร์จ 3in1 / สายชาร์จ 2in1
มาต่อกันที่อีกประเภทของสายชาร์จแบตที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ใคร ด้วยจุดเด่นเรื่องพอร์ตชาร์จแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมรับรองการใช้งานได้หลากหลาย สามารถใช้ได้ทั้งการชาร์จแบต ถ่ายโอนข้อมูล ตลอดจนการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
โดยทั่วไปในหนึ่งชุดนั้น จะประกอบไปด้วย USB C, Lighting และ Micro USB ที่มาพร้อมกับพอร์ตแบบ USB A ด้วยการออกแบบนี้ จึงทำให้สายชาร์จแบบ 3in1 / 2in1 กลายเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ต้องการชาร์จอุปกรณ์หลากหลายประเภท
- สายชาร์จแม่เหล็กไร้สาย
แบบที่นิยมและคุ้นตา เห็นจะเป็นแท่นชาร์จไร้สายอย่าง Magsafe จาก Apple และอุปกรณ์เสริมจากแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการชาร์จที่เรียกว่า Wireless Charging ที่มีหลักการถ่ายโอนพลังงานผ่านแถบอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างแท่นชาร์จ และมือถือที่รองรับการชาร์จดังกล่าว
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ชาร์จที่สะดวก ตอบโจทย์คนที่ไม่ต้องการพกสายชาร์จและอะแด็ปเตอร์ให้กินพื้นที่ภายในกระเป๋า เพียงแค่พกแท่นชาร์จแม่เหล็กไร้สาย พร้อมเสียบปลั๊กให้พลังงานไฟฟ้าแล่นผ่านก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย
เทคนิคการเลือกซื้อสายชาร์จฉบับมือใหม่ เข้าใจง่าย
- การชาร์จและอุปกรณ์ที่รองรับ
จะซื้อสายชาร์จให้ “ใช้งานได้” ต้องพิจารณาจากสมาร์ตโฟนรุ่นที่กำลังใช้งาน เริ่มต้นจากดูประเภทของช่องชาร์จ เพื่อมองหาอุปกรณ์ที่รองรับได้อย่างเหมาะสม เพราะสมาร์ตโฟนบางรุ่นก็ไม่สามารถใช้งานสายสำหรับชาร์จแบตร่วมกันได้นั่นเอง
- วัสดุที่ได้คุณภาพและทนทาน
วัสดุที่เลือกจะต้องทนทานต่อการใช้งาน ไม่ใช่เพราะความคุ้มค่า แต่นั่นหมายถึงความปลอดภัยตลอดระยะอายุการใช้งานของสายชาร์จแบตที่เลือก โดยวัสดุที่มีให้เห็นในปัจจุบันก็มีทั้งพลาสติกแข็งแบบ PVC, ยาง TPE, เชือกถักไนล่อน และอะลูมิเนียม
ในส่วนของลำดับความทนทานที่ใช้ได้นาน ไม่ต้องกังวลเรื่องสายขาด ต้องยกให้เชือกไนลอนเป็นอันดับแรกที่ตอบโจทย์ได้อย่างเหมาะสม ส่วนถ้าใครมองหาความสวยแบบเรียบหรู คงต้องไปทางวัสดุยาง TPE ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พบได้ในสายของ Apple และแอนดรอยด์บางรุ่น ในขณะเดียวกันหากต้องการดีไซน์สวยงามแบบแตกต่าง สายอะลูมิเนียมถือเป็นคำตอบที่ดีที่สุด!
- ขนาดความยาวที่เหมาะสมกับการใช้งาน
อุปกรณ์สายและอะแด็ปเตอร์ที่ชาร์จจากแบรนด์ทางเลือก ได้ผลิตความยาวของสายที่แตกต่างกันออกมาให้ตอบโจทย์ความต้องการด้านการใช้งาน เพราะ ๆ หลายครั้ง ขนาดสายมาตรฐานอาจไม่สามารถใช้งานได้สะดวกมากเพียงพอนั่นเอง
- กำลังไฟที่สายรองรับ
จะชาร์จช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับกำลังไฟที่รองรับ ดังนั้นการดูกำลังไฟตามชนิดพอร์ตของสายจะช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์ความสามารถในการจ่ายไฟ ตลอดจนการใช้งานที่ปลอดภัย เข้ากับอะแด็ปเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ไร้ปัญหาจากกำลังไฟที่ไม่เข้ากันจนอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่สมาร์ตโฟนได้นั่นเอง
- เลือกซื้อสายที่มีประกันรองรับ
การประกันสินค้าจะช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่า สายชาร์จที่ซื้อมาเป็นสินค้าที่มีมาตรฐาน และผลิตภายใต้บริษัทที่ไว้ใจได้ พร้อมรองรับคุณภาพการใช้งานไปในตัวอีกด้วย โดยระยะเวลาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ปี ซึ่งในช่วงระยะเวลานี้ถ้าสายที่ใช้งานเกิดชำรุด ก็สามารถส่งเคลมได้เลยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายนั่นเอง
เลือกซื้อสายชาร์จคุณภาพสูง ทุกรุ่น ทุกแบรนด์ที่ต้องการได้ง่าย ๆ ที่ Vgadz ศูนย์รวมสินค้าไอทีและอุปกรณ์เสริมที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน การันตีอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ทุกชิ้นเป็นของแท้ 100% เริ่มต้นการสั่งซื้อได้ทันที ผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อฝ่ายขายออนไลน์ได้ที่ โทร 081-170-3446