รายละเอียดเพิ่มเติม
Ultra Slim Bass Driver
ไดเวอร์ที่ใช้ขับความถี่กลางลงมาต่ำ (mid-bass) ซึ่งถูกใช้ในลำโพงแซทเทิ้ลไล้ท์รุ่น T301 และรุ่น T101 นั้นเป็นไดเวอร์แบบไดนามิกที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว และเป็นไดเวอร์ที่วิศวกรของ KEF ออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถบรรจุลงไปในตัวตู้ที่มีความหนาเพียงแต่ 1.5 นิ้ว ได้ แต่ยังคงรักษาประสิทธิภาพในการผลักดันมวลอากาศเพื่อสร้างความถี่เสียงกลางและทุ้มที่มีความอิ่มแน่น วิศวกรของ KEF จึงเลือกใช้ไดเวอร์ไดนามิกที่ได้ชื่อว่าเป็นรูปแบบของไดเวอร์ที่ขับความถี่ย่านกลาง–ทุ้มได้ดีที่สุด ซึ่งขนาดที่ต้องการคือ 4.5 นิ้ว แต่เนื่องจากไดเวอร์ที่มีขนาดหน้าตัด (เส้นผ่าศูนย์กลาง) 4.5 นิ้วโดยทั่วไปจะมีความลึกของโครงสร้างมากกว่าที่จะสามารถใส่ลงไปในตัวตู้ที่มีความหนาไม่ถึงสองนิ้ว พวกเขาจึงต้องใช้วิธีออกแบบไดเวอร์ตัวนี้ขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้น มีการย่นย่อส่วนของโครงสร้าง (basket) ของตัวไดเวอร์ให้มีลักษณะแบนราบจนสามารถใส่ลงไปในตัวตู้ของลำโพงทั้งสองรุ่นนั้นได้ (เหลือความหนาเพียงแค่ 27 ม.ม. เท่านั้น!) ในขณะเดียวกัน เพื่อให้ยังคงมีประสิทธิภาพในการผลักดันมวลอากาศที่มากพอ จึงได้ทำการออกแบบส่วนประกอบที่สำคัญของไดเวอร์ตัวนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ
Twin Layered Radiating Diaphragm
ไดเวอร์มิด/วูฟเฟอร์ที่ใช้ในลำโพง T-Series ทั้งหมดใช้ไดอะแฟรมแบบพิเศษที่ชื่อว่า Twin Layered MF Driver คือเป็นไดอะแฟรมที่มีโครงสร้างบางๆ แต่มีความแกร่งสูงซ้อนอยู่ด้านหลังไดอะแฟรมตัวหลักอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งโครงสร้างที่ว่านี้จะช่วยเพิ่มความแรก่งให้กับไดอะแฟรมของไดเวอร์ตัวนี้ ทำให้มีแรงต้านทานอากาศมากขึ้น สามารถปั๊มอากาศสร้างความถี่เสียงได้แรงขึ้นโดยที่แผ่นไดอะแฟรมหลักไม่เกิดอาการเสียทรง นอกจากนั้น บริเวณขอบยางที่ยึดแผ่นไดอะแฟรมเข้ากับโครงของไดเวอร์ (Z-Flex Surround) ถูกออกแบบให้มีมวลต่ำ แต่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้ไดอะแฟรมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
Large New Vented Tweeter
ปกติแล้ว ลำโพงที่มีตัวตู้เล็กๆ ขนาดนี้จะใช้ทวีตเตอร์ที่มีขนาดแค่ 19 ม.ม. ก็เพียงพอ แต่เพื่อให้ได้ส่วนผสมที่ดีระหว่างความถี่สูงกับความดังของเสียงในย่านสูง ทำให้วิศวกรของ KEF เลือกที่จะใช้ทวีตเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นคือ 25 ม.ม. ซึ่งเป็นขนาดเดียวกันกับทวีตเตอร์ที่ใช้ในลำโพงรุ่น Muon และลำโพงใน Reference Series ซึ่งเป็นลำโพงระดับHi-End ของแบรนด์ KEF นอกจากนั้น ยังเปิดช่องระบายอากาศที่ด้านหลังของตัวทวีตเตอร์ไว้ด้วย ซึ่งเป็นการช่วยลดแรงกดดัน (compress) ของมวลอากาศหลังโดมที่เกิดจากการขยับตัวของโดมทวีตเตอร์ช่วงที่ถอยหลัง เพราะโดยทั่วไปของทวีตเตอร์ที่มีช่องด้านหลังแบบปิดทึบจะทำให้มวลอากาศหลังโดมถูกอัดช่วงที่โดมถอยหลัง ทำให้เกิดแรงต้านของมวลอากาศที่ถูกอัดอยู่หลังโดม จึงทำให้โดมทวีตเตอร์ขยับตัวถอยหลังได้ไม่เต็มที่ ส่งผลเสียต่อคุณภาพเสียงในย่านสูง