แวดวงแก็ดเจ็ตรู้กันดี ว่าหนึ่งในอุปกรณ์ไอทีที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนวัยทำงานหลากหลายสาขาต่างก็ออกปากให้ “iPad” เป็นสุดยอดของแท็บเล็ตที่ครอบคลุมการใช้งานได้มากที่สุด
แต่สำหรับมือใหม่ที่ต้องการนำไอแพดมาใช้งาน อาจกำลังสงสัยว่าแต่ละรุ่นที่วางขายในปัจจุบัน มีความแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงมีฟังก์ชันและสเป็กแบบไหนที่จะตอบโจทย์การใช้งานของเราบ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาฝากสำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจ ก่อนไปเลือกดูเคสไอแพดที่ต้องการ
Apple iPad Mini
หากคุณเคยเห็นเคสไอแพดที่มีขนาดเล็กมากกว่าปกติ นั่นคือเคส iPad Mini ซึ่งเป็นไอแพดรุ่นน้องเล็กในบรรดาทุกรุ่นที่เคยมีมา ทำไมเราถึงนิยามว่าเป็น “น้องเล็ก” ? เหตุผลก็เพราะว่าตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด ส่งผลให้มีน้ำหนักเบา และง่ายต่อการพกติดตัวไปไหนมาไหน แถมฟังก์ชันการใช้งานก็อัดแน่นจัดเต็ม จะฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม หรือจดบันทึกสำหรับการศึกษา หรือทำงานทั่วไปก็ทำได้อย่างแน่นอน
สเป็กเครื่องรุ่นล่าสุด
สำหรับรุ่นล่าสุดของ iPad Mini ได้ทำการเปิดตัวเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา ในชื่อ iPad Mini 6 (6th Gen) ที่เน้นดีไซน์คล่องตัว ทว่ามาพร้อมกับประสิทธิภาพการทำงานที่สูงลิบเป็นหลัก โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ก็นับว่าสร้างความตื่นตาให้แก่เหล่าสาวกไอทีไม่น้อย กับการปรับโฉมครั้งใหญ่ ยกเครื่องใหม่ทั้งหมด!
ซึ่งการยกเครื่องเรื่องดีไซน์ครั้งนี้ ทาง Apple ได้ปรับหน้าตาให้ไปแนวทางเดียวกับไอแพดรุ่นอื่น ๆ ด้วยการเน้นความเป็นเหลี่ยม ดูมีรูปทรงที่ทันสมัย ทั้งขยายหน้าจอเพิ่มเป็น 8.3 นิ้ว ชนิด IPS แบบ Full Lamination พร้อมตัดปุ่มโฮมออกจากการใช้งาน นอกจากนี้ ยังรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 ให้ใช้งานสมบูรณ์แบบมากกว่าที่เคย
หากใครกังวลถึงการใช้งานกับหน้าจอที่มีขนาดเล็ก และกลัวว่าจะไม่สามารถอ่านตัวอักษรได้ชัดเจน iPad Mini Gen6 ก็นับว่าตอบโจทย์เรื่องการพัฒนาแก้ปัญหาตรงนั้นอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการแสดงผลของหน้าจอที่ถูกปรับมาให้เป็นแบบ True Tone มีขอบเขตเขตสีสันที่กว้างถึง P3 ช่วยลดการสะท้อนของแสงระหว่างใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้การแสดงผลตัวหนังสือทำได้อย่างคมชัด แม่นยำ ไม่ลำบากสายตา
นอกจากนี้รุ่นล่าสุดยังรับประกันการใช้งานที่ไหลลื่น เพราะทำงานได้เร็วขึ้นถึง 40% ด้วยการขับเคลื่อนผ่านชิปฯ A15 Bionic รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เป็น CPU แบบ 6 คอร์ GPU แบบ 5 คอร์ และ Neural Engine แบบ 16 คอร์ ที่ส่งให้งานกราฟิกหน้าจอเร็วเพิ่มขึ้นไปอีก 80% ผนวกกับการทำงานบนระบบใหม่ เริ่มต้นตั้งแต่ iPadOS 15 ที่ให้ความเสถียรที่สูงกว่าเดิม เพียงแค่นี้ก็ตอบได้แล้วว่าทำไมไอแพดมินิ ถึงตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่เริ่มมองหาไอแพดมาใช้งาน
ความจุ: 64GB และ 256GB
ราคา: เริ่มต้นที่ 17,900 บาท (รุ่น Wi-Fi) และ 23,400 บาท (รุ่น Wi-Fi-Cellular)
สี: สเปซเกรย์ สตาร์ไลท์ ชมพู ม่วง
เหมาะกับใคร: เหมาะกับบุคคลที่ต้องการอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างครอบคลุม และมีขนาดพกพาง่าย ไม่ใหญ่จนเกินไป
Apple iPad
ไอแพดชั้นประหยัดสำหรับคนที่อยากเซฟงบ! เพราะรุ่นนี้ทางแบรนด์ Apple ได้ตัดฟังก์ชันบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป มีผลทำให้ราคาขายลดลง แต่พอฟังแบบนี้อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีกัน เพราะฟังก์ชันพื้นฐานในการใช้งานก็ยังถูกเก็บเอาไว้ นับว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด วัดจากเคสไอแพดที่มีวางขายมากที่สุด แถมยังตอบโจทย์วัยเรียนอย่างแน่นอน
สเป็กเครื่องรุ่นล่าสุด
มองหาไอแพดรุ่นเริ่มต้นที่เหมาะกับการใช้งานแบบพื้นฐานต้อง Apple iPad รุ่นล่าสุดอย่าง iPad 10.2 inch (9th Gen) ที่เปิดตัวเมื่อปี 2021 แม้จะมีดีไซน์ที่หน้าตาคุ้นเคย แต่ภายในได้ถูกอัปเกรดเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอยู่หลายจุด บวกกับฟีเจอร์ที่หลากหลายมากกว่าเดิม ทำให้สามารถใช้งานได้ง่าย เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
สำหรับขนาดหน้าจอถือว่าเป็นขนาดที่คุ้นตาอยู่ที่ 10.2 นิ้ว และเป็นชนิด Retina Display ทำให้หน้าจอแสดงผลได้อย่างคมชัด สดใส สามารถใช้งานจดบันทึก อ่านหนังสือได้อย่างเหมาะสม
ในส่วนของความเร็วเครื่อง ด้วยการทำงานของชิปฯ A13 Bionic ตัวเดียวกับใน iPhone 11 จึงรับประกันได้เลยว่าตัวเครื่องจะทำงานได้เร็วไหลลื่นขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ ถึง 20% ทำให้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันใหม่ หรือเทคโนโลยีที่ถูกเพิ่มเข้ามาได้อย่างคล่องตัว ตอบรับกับการใช้งานในระบบปฏิบัติการ iPadOS 15 อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่มองหาไอแพดไว้เปิดกล้องใช้เรียนออนไลน์ iPad 9th Gen มีกล้องหน้าแบบอัลตราไวด์ ที่ให้ความละเอียดถึง 12MP ไร้กังวลเรื่องภาพแตก สีไม่ชัด ทีนี้จะพรีเซนต์งานออนไลน์หรือเปิดกล้องตอบคำถามในห้องเรียนก็ไม่มีปัญหาเรื่องความคมชัดอีกต่อไป
ความจุ: 64GB และ 256GB
ราคา: เริ่มต้นที่ 11,400 บาท (รุ่น Wi-Fi) และ 16,400 บาท (รุ่น Wi-Fi-Cellular)
สี: สเปซเกรย์ ซิลเวอร์
เหมาะกับใคร: เหมาะกับน้องนักเรียน นักศึกษา ที่เน้นการใช้งานแบบทั่วไป สามารถจดเลคเชอร์ และอ่านหนังสือได้อย่างคมชัด
Apple iPad Air
เพิ่มงบขึ้นมาอีกหน่อยกับ iPad Air เจเนอเรชันใหม่อย่าง iPad Air 5 ที่เพิ่งเปิดตัวในไตรมาสใหม่ปี 2022 ให้สาวกแอปเปิ้ลตื่นตาตื่นใจกับขุมพลังที่ใกล้เคียงการทำงานแบบโปร พร้อมดีไซน์ทันสมัยที่คุ้นเคย ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งกว่า
สเป็กเครื่องรุ่นล่าสุด
หลังจากเปิดตัว iPad Air 4 ไปเมื่อเดือนกันยายน ปี 2020 ทางแบรนด์ Apple ได้เปิดตัวรุ่นใหม่อย่าง iPad Air 5 ให้สาวกแอปเปิ้ลได้ตื่นเต้นจนอยากเสียเงิน กับดีไซน์ที่คุ้นตา มาพร้อมกับเฉดสีใหม่ที่มีมาให้เลือกอย่างถูกใจ และที่สำคัญยังมีไฮไลต์ฟังก์ชันมากมายที่ใกล้เคียงระดับโปร ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม
ขนาดหน้าจอสำหรับรุ่นใหม่นี้ มีขนาด 10.9 นิ้ว Multi‑Touch แบบ LED และเป็นชนิดหน้าจอแบบ Liquid Retina HD ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 2360 x 1640 พิกเซล ที่ 264 ppi และมีความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 500 นิต ทำให้หน้าจอแสดงภาพได้อย่างละเอียด สดใส หากใครเป็นสายดีไซเนอร์ กราฟิก นักออกแบบ คงชื่นชอบไอแพดรุ่นนี้กันอย่างแน่นอน
ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องที่ใช้ชิปฯ M1 แบบเดียวกับที่ใช้ใน iPad Pro 2021 มาพร้อมกับ CPU ที่ช่วยให้ตัวเครื่องทำงานได้เร็วขึ้นสูงสุด 60% และกราฟิกก็เร็วขึ้นจากรุ่นก่อนถึง 2 เท่า ผนวกกับการอัปเกรด RAM จาก 4GB เป็น 8GB ทำให้เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานแบบ Multi Tasking สลับแอปพลิเคชันไปมาได้อย่างราบรื่น ตอบโจทย์งานสายกราฟิก ตัดต่อได้อย่างแท้จริง ใครที่กำลังเล็ง ๆ อยู่ บอกเลยว่าคุ้มค่าแก่การลงทุน แต่ช่วงนี้อาจจะยังหาเคสสำหรับ iPad Air 5 โดยเฉพาะยากนิดนึง เพราะยังถือเป็นรุ่นใหม่แกะกล่องอยู่มาก
ความจุ: 64GB และ 256GB
ราคา: เริ่มต้นที่ 20,900 บาท (รุ่น Wi-Fi) และ 25,900 บาท (รุ่น Wi-Fi-Cellular)
สี: สเปซเกรย์ ฟ้า ม่วง ชมพู ขาว
เหมาะกับใคร: เหมาะกับสายงานตัดต่อ กราฟิก และคนที่มองหาอุปกรณ์สำหรับใช้งานแทนคอมพิวเตอร์ที่พกพาได้ง่ายกว่า
Apple iPad Pro
สุดยอดไอแพดที่สวยที่สุด ดีที่สุด แต่ก็มาพร้อมกับราคาที่แรงมากที่สุดเช่นเดียวกัน หากใครมองหาอุปกรณ์การทำงานที่มีฟังก์ชันครบครัน จัดเต็มในทุก ๆ การใช้งาน ชนิดที่สามารถทดแทนคอมพิวเตอร์ได้อย่างไร้ที่ติ ต้องบอกเลยว่า iPad Pro นั้นตอบโจทย์อย่างถึงที่สุด
สเป็กเครื่องรุ่นล่าสุด
สำหรับใครที่เคยเห็นเคสไอแพดอันใหญ่จนสะดุดตา ขอให้รู้ไว้เลยว่านั่นคือเคสไอแพดของ iPad Pro ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในรุ่นของไอแพดทั้งหมด จะเรียกว่าเป็นพี่ใหญ่ก็คงไม่ผิดนัก เพราะด้วยฟังก์ชัน สเป็ก และประสิทธิภาพที่จัดเต็มในทุกการทำงาน จึงทำให้กลายเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ในหมู่คนวัยทำงานที่ใช้งานอย่างจริงจัง
ลองมาส่องกันที่สเป็กหน้าจอ สำหรับ iPad Pro 12.9 inch (5th Gen) ไอแพดโปรรุ่นล่าสุดปี 2021 ที่พกพาความเร็ว แรง มาในดีไซน์ที่เรียบหรู สะดุดตา ดูเป็นงานพรีเมียมที่ควรค่าแก่การครอบครอง ซึ่งในส่วนของหน้าจอมาในรูปแบบของ Multi-Touch Liquid Retina XDR แบ็กไลต์แบบ Mini‑LED พร้อมขนาดความกว้างที่มากถึง 12.9 นิ้ว ทั้งยังมีโซนหรี่แสงได้เฉพาะที่ ช่วยให้การแสดงผลดูสมจริง และเป็นธรรมชาติ ผนวกกับเทคโนโลยี ProMotion ให้แสดงผลแบบ True Tone จึงมั่นใจได้ว่าจะปราศจากปัญหาสีเพี้ยน ที่จะกลายเป็นปัญหาอันส่งผลต่อการใช้งานอย่างแน่นอน
ไฮไลต์ไม้เด็ดอีกหนึ่งอย่างของ iPad Pro รุ่นล่าสุดนี้ก็คือประสิทธิภาพการทำงานที่มาพร้อมกับชิปฯ M1 ที่มอบการทำงานให้เร็วขึ้น ไหลลื่นขึ้นมากถึง 50% จากไอแพดโปรรุ่นก่อน ทั้งยังทำงานคู่กับ Neural Engine แบบ 16 คอร์ และ GPU แบบ 8 คอร์ ส่งผลให้การแสดงผลด้านกราฟิกมีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 40% เมื่อรวมพลังกันทั้งหมดแล้วจึงทำให้ไอแพดโปรรุ่นนี้กลายเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในประวัติการณ์ของแอปเปิ้ลเลยทีเดียว
ความจุ: 128GB, 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB
ราคา: เริ่มต้นที่ 37,500 บาท (รุ่น Wi-Fi) และ 42,500 บาท (รุ่น Wi-Fi-Cellular)
สี: สเปซเกรย์ ซิลเวอร์
เหมาะกับใคร: เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานแทนคอมพิวเตอร์แบบครบครันมากที่สุด
สำหรับใครที่สนใจเคส iPad ทั้งรุ่นทั่วไป iPad mini, iPad Air และ iPad Pro ก็สามารถเลือกช็อปได้เลยที่ Vgadz เพราะที่นี่เรารวบรวมสินค้าคุณภาพสูงจากหลากหลายแบรนด์ดังทั่วโลกไว้ให้คุณเลือกช็อปกันอย่างจุใจ มีของพร้อมให้ทุกรุ่น ทั้งยังการันตีได้ว่าเป็นของแท้ 100% มาพร้อมการรับประกันเพื่อความมั่นใจในทุกการใช้งาน สามารถสั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อฝ่ายขายออนไลน์ได้ที่ โทร 081-170-3446